เนื้อปลาเก๋าผัดฉ่า


คืนนี้มีเมนูรสชาติจัดจ้าน  เผ็ด  เค็ม  เผ็ดร้อนจากสมุนไพรมาฝาก  ถ้าชอบเผ็ดมากให้เพิ่มปริมาณพริกขี้หนูได้  ถ้าชอบเผ็ดน้อยให้ลดปริมาณพริกขี้หนูลงได้เช่นกัน  ผัดฉ่าทั้งหลายเป็นเมนูจานเด็ดของร้านอาหารหลายร้าน  จริง ๆ แล้วขั้นตอนการทำไม่ได้ยุ่งยากจนเกินไปนะคะ  ถ้าใช้เนื้อปลาจะยิ่งเป็นเมนูสุขภาพมากขึ้น  เพราะปลาไขมันต่ำและย่อยง่ายค่ะ

เตรียมของ
เนื้อปลาเก๋าหั่นชิ้นพอดีคำ 180 กรัม
พริกเหลือง 1 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
พริกไทยดำ 15 เม็ด
กระเทียมกลีบกลาง 15 กลีบ
ข่าแก่ 3 แว่น
พริกไทยอ่อน 3 ฝัก
กระชาย 6-7 ก้าน
พริกจินดาสีแดง 4 เม็ด
ใบกะเพรา 4-5 กิ่ง
ซอสหอยนางรม (ภูเขาทอง) 2 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรสฝาเขียว (ภูเขาทอง) 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1 ช้อนชา
น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 5 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  1. ล้างเนื้อปลาเก๋าและผักที่จะใช้ทุกชนิด พักให้สะเด็ดน้ำ
  2. พริกเหลืองปลิดขั้วทิ้ง หั่นเป็นแว่นเล็ก ๆ เพื่อให้โขลกง่าย พริกขี้หนูสวนใช้ทั้งก้านนะคะ
  3. ข่าหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระเทียมปอกเปลือกนอกออกเล็กน้อย
  4. โขลกพริกไทยดำพอหยาบ ตามด้วยข่า กระเทียม พริกเหลืองและพริกขี้หนูสวนให้พอมีแล่นใบบ้าง คือไม่ต้องละเอียดยิบ ๆ
  5. เนื้อปลาเก๋าหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หรือใช้เนื้อปลากะพงแทนก็ได้ค่ะ
  6. กิ่งกะเพราเขย่าให้สะเด็ดน้ำ เด็ดเอาแต่ใบใส่ถ้วย ถ้ามีใบมะกรูดแนะนำให้ใส่ด้วยสัก 3 ใบ แต่พอดีวันนี้หมดค่ะ
  7. กระชายซอยเป็นเส้นยาว ๆ ถ้าไม่สะดวกซอยเองซื้อแบบที่ซอยสำเร็จมาก็ได้ค่ะ
  8. พริกไทยอ่อนรูดออกจากฝัก แบบนี้กินสะดวก เผ็ดร้อนถึงใจ
  9. พริกจินดาหั่นแฉลบ ๆ เพิ่มสีสัน หรือใช้พริกชี้ฟ้าสีแดงแทนได้ หรือใช้พริกเหลืองก็ได้เช่นกัน
  10. ผสมเครื่องปรุงอันได้แก่ซอสหอยนางรม (ภูเขาทอง) ซอสปรุงรส (ภูเขาทอง) น้ำปลา น้ำตาลทรายไม่ฟอกสีและน้ำสะอาดใส่ถ้วย คนให้เข้ากัน
  11. เทน้ำมันพืชใส่กระทะ เปิดเตาไฟกลางมาทางอ่อน รอน้ำมันอุ่น
  12. นำเครื่องแกงผัดฉ่าที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอมฉุย ใช้ไฟกลางมาทางอ่อน ระวังไหม้ค่ะ
  13. ใส่เนื้อปลาเก๋า เร่งเป็นไฟกลาง ผัดด้วยความนิ่มนวลเพื่อกันไม่ให้เนื้อปลาแตก จะทำให้ไม่น่ารับประทาน
  14. ผัดสักครู่ให้เนื้อปลาสุก 90 เปอร์เซนต์ เทซอสที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เร่งไฟแรงให้เนื้อปลาสุก
  15. ซอสจะเดือดปุด ๆ ใส่พริกไทยอ่อนและกระชายซอย ผัดให้สมุนไพรส่งกลิ่นหอม
  16. ชิมรสชาติ ขาดเหลือให้ปรุงเพิ่มได้ ถ้าน้ำแห้งไปให้เติมน้ำสะอาดได้ตามสมควร
  17. ใส่ใบกะเพรา ผัดให้ใบกะเพราสลบ ปิดเตา ใส่พริกจินดาสีแดง คนพอทั่ว
  18. ตักใส่จานเสิร์ฟกับข้าวสวย อร่อยเหาะ เผ็ดร้อนถึงใจ